ขนมไทยมีอะไรบ้าง ประวัติขนมไทย ขนมไทยมีกี่ประเภท วัตถุดิบที่ใช้ทำขนมไทย ขนมไทยในแต่และภาค ของหวาน เมนูของหวาน ของว่างไทยโบราณ ขนมไทย ก็เป็น สูตรอาหารไทย สูตรทําเบเกอรี่ เช่น สาคูไส้หมู ทับทิมกรอบ บัวลอยไข่หวาน
ขนมไทย มีความหลากหลายในวัตถุดิบ แต่จะนิยมใช้ผลไม้ น้ำตาลปี๊บและกะทิ จากมะพร้าวเป็นส่วนประกอบหลักในการทำ และภายหลังขนมไทยได้รับวัฒนธรรมขนมหวานจากต่างประเทศจึงเริ่มนำไข่ไก่และแป้งเข้ามาเป็นวัตถุดิบ จึงทำให้ขนมหวานไทยมีคามหลากหลายมากยิ่งขึ้น
เราได้รวบรวมสูตรขนมไทยมาเสนอต่อท่านให้มาลองทำกินกัน แต่การทำขนมจะมีความซับซ้อนสักหน่อย เคล็ดลับความอร่อยของขนมไทย
ขนมไทย มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือ มีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม เห็นได้ชัดจากร้านอาหารหรือร้านกาแฟทั้งหลาย ต่างพยายามบรรจุขนมไทยเข้าไปอยู่ในเมนูด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบบประยุกต์หรือดั้งเดิม ขนมไทย หัตถกรรมความอร่อยที่แสดงออกถึงความอ่อนช้อยของความเป็นไทย ตั้งแต่ครั้งอดีตกาลที่ก่อกำเนิดภูมิปัญญาไทยหลากหลายอย่างให้สืบสานต่อทั้งวิถีชีวิตประเพณี วัฒนธรรม ขนมไทย เรามีรสชาติกลอมกล่อม ไม่หวาน ละเมียดละไมชวนรับประทาน มีกลิ่นหอมธรรมชาติ
ประวัติความเป็นมาของขนมไทย
ขนมไทยในสมัยโบราณ นิยมทำขนมไทยเฉพาะวาระที่สำคัญเท่านั้น เช่นงานประเพณีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำบุญ งานแต่งงาน เทศกาลสำคัญ เนื่องจากขนมไทยเป็นขนมที่ใช้เวลาทำนาน เนื่องจากต้องใช้ความพิถีพิถัน มาก ความสวยงามเป็นจุดเด่นของขนมไทย ขนมไทยแบบดั้งเดิม จะมีส่วนผสมของ แป้งจากข้าวจ้าว หรือ ข้าวเหนียว น้ำตาล กะทิ เท่านั้น ต่อมาการถ่ายทอดวัฒนธรรมด้านอาหารจากประเทศต่างๆเข้ามาในประเทศไทย ขนมก็มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ก็เป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกส ในสมัยรัชกาลที่ 1 พบหลักฐานว่ามีการทำตำราอาหาร และตำราขนมไทยครั้งแรก ซึ่งตำราอาหารไทยเล่มแรกคือ แม่ครัวหัวป่าก์
ประเภทของขนมไทย
ขนมไทยสามารถแบ่งได้ 7 ประเภท ประกอบด้วย ขนมกวน ขนมนึ่ง ขนมเชื่อม ขนมทอด ขนมอบ และขนมต้ม ซึ่งรายละเอียดของขนมชนิดต่างๆ ดังนี้
- ขนมจากการกวน ใช้กะทะกวนขนมจากน้ำเหลวๆจนงวด และใส่ลงพิมพ์ เช่น ตะโก้ ขนมลืมกลืน ขนมเปียกปูน ขนมศิลาอ่อน ข้าวเหนียวแดง ข้าวเหนียวแก้ว และกะละแม เป็นต้น
- ขนมจากการนึ่ง ใช้ความร้อนจากไอน้ำทำให้ขนมสุก เช่น ช่อม่วง ขนมชั้น ข้าวต้มผัด สาลี่อ่อน สังขยา ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ ขนมเทียน ขนมน้ำดอกไม้ เป็นต้น
- ขนมจากการเชื่อม เป็นการนำวัตถุดิบมาต้มกับน้ำตาลให้ความหวาน เช่น ทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง เม็ดขนุน กล้วยเชื่อม จาวตาลเชื่อม เป็นต้น
- ขนมจากการทอด นำวัตถุดิบลงกะทะน้ำมันทำให้สุก เช่น กล้วยทอด ข้าวเม่าทอด ขนมกง ขนมค้างคาว ขนมฝักบัว ขนมนางเล็ด เป็นต้น
- ขนมจากการอบ ใช้ความร้อนทำให้ขนมสุก ขนมจะมีลักษณะแห้งและกรอบ เช่น ขนมกลีบลำดวน ขนมทองม้วน สาลี่แข็ง ขนมครก ขนมเบื้อง เป็นต้น
- ขนมจากการต้ม เป็นการนำวัตถุดิบมาต้มให้สุก เช่น ขนมถั่วแปบ ขนมต้ม ขนมเหนียว ขนมเรไร เป็นต้น
- ขนมประเภทน้ำ นิยมใช้น้ำตาลและน้ำกะทิ มาทำขนม เช่น กล้วยบวชชี มันแกงบวด สาคูเปียก ลอดช่อง ซ่าหริ่ม เป็นต้น
วัตถุดิบในการทำขนมไทย
ขนมไทย เป็นจะมีเอกลักษณ์เด่่นในเรื่องความหลากหลายของรสชาติ สีสัน และความหลากหลาย ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ สามารถหาได้จากธรรมชาติ และอยู่คู่กับความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน โดยรายละเอียด ดังนี้
- ข้าวและแป้ง ข้าวก็คือแป้งชนิดหนึ่ง ข้าวที่นำมาทำขนมจะเป็นข้าวใหม่ นำไปทำเป็นแป้ง สามารถใช้ เช่น ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว นอกจากแป้งที่ได้จากข้าวเจ้าและเหนียว ยังมีแป้งจากมันสำปะหลัง และแป้งจากข้าวสาลี ซึ่งแป้งสาลีจะเป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ
- มะพร้าว มะพร้าวสามารถนำมาทำขนมได้ทั้ง เนื้อมะพร้าวและน้ำกะทิ ที่ได้จากการคั้นนำขากเนื้อมะพร้าว น้ำจากลูกมะพร้าวก็มีความหวาน นำมาทำขนมอร่อย เนื้อมะพร้าวอ่อน เอามาทำขนม เช่น เปียกสาคู วุ้นมะพร้าว สังขยามะพร้าวอ่อน เนื้อมะพร้าวทึนทึก ใช้ขูดเอาเนื้อมากิน ทำขนม ขนมเปียกปูน ขนมขี้หนู มะพร้าวแก่ จะนำเนื้อมะพร้าวมาคั้นเอากะทิ นำไปทำขนมได้หลากหลาย เช่น กล้วยบวชชี สาคูเปียก ซ่าหริ่ม บัวลอย เป็นต้น
- น้ำตาล เป็นสารให้ความหวาน ซึ่งน้ำตาลได้จากการสกัดจาก จาวมะพร้าว จาวตาล อ้อย เป็นต้น น้ำตาลเป็นส่วนประกอบของขนมหวานทุกชนิด
- ไข่ การนำไข่มาทำขนม เป็นการได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศ นิยมนำไข่มาผสมกับแป้ง น้ำตาล ทำขนมด้หลากหลาย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เป็นต้น
- ถั่วและงา ถั่วและงามีรสชาติอร่อย ให้ความหอมและเพิ่มความกรอบของเนื้อขนม ข้าวต้มมัด ข้าวหลาม ถั่วดำต้มน้ำตาล ขนมถั่วดำ ต่างก็มีส่วนผสมของถั่ว
- กล้วย กล้วยเป็นผลไม้ที่อยู่คู่สังคมไทย รสหวาน ทานสดก็อร่อย การนำมาทำขนมจึงถูกนำมาประยุกต์ทำมากมาย เช่น ขนมกล้วย กล้วยกวน กล้วยเชื่อม กล้วยแขกทอด ข้าวต้มมัด ข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย ข้าวเม่า เป็นต้น
- สี การให้สีในขนมไทย สามารถทำได้ง่ายโดยใช้สีจากธรรมชาติ เช่น สีเขียว ได้จากใบเตย สีน้ำเงินจากดอกอัญชัน สีเหลืองจากขมิ้น สีแดงจากครั่ง สีดำจากกาบมะพร้าวเผาไฟ
- กลิ่นหอม กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของขนมไทย การให้ความหอมของขนมไทย เช่น ใช้ดอกมะลิ ดอกกระดังงา กลิ่นเทียนอบ กลิ่นใบเตย เป็นต้น
ขนมไทยในแต่ละภาค
ประเทศไทยมี 4 ภูมิภาคใหญ่ๆ คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้และภาคอีสาน ขนมของแต่ละภาดก็จะมีความแตกต่างกันตามวัตถุดิบที่าได้มากในแต่ละภูมิภาด และประเพณีที่นิยมในท้องถิ่นนั้นๆ ขนมของภาคต่างๆในประเทศไทยมีรายละเอียด ดังนี้
- ขนมไทยภาคเหนือ
ขนมของชาวภาคเหนือ จะผูกพันกันพิธีกรรม และมักทำจากข้าวเหนียว ใช้วิธีการต้มเป็นหลัก เช่น ขนมเทียน ขนมวง ข้าวต้มหัวหงอก ขนมใส่ไส้ ขนมปาด ข้าวเหนียวแดง ข้าวแตน ข้าวแต๋น ขนมเกลือ เป็นต้น
- ขนมไทยภาคกลาง
ขนมของชาวภาคกลางจะทำจากข้าวเจ้าเป็นส่วยมาก เช่น ข้าวตัง นางเล็ด ข้าวเหนียวมูน ขนมกลีบลำดวน ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมเผือก เป็นต้น
- ขนมไทยภาคอีสาน
ขนมของชาวอีสานจะเป็นขนมที่ทำกันง่ายๆ ไม่พิถีพิถันมากนั้ก ทำจากแป้งและข้าวเหนียวเป็นหลัก เช่น ข้าวจี่ ข้าวโป่งข้าวต้มมัด กระยาสารท ข้าวทิพย์ ข้าวยาคู เป็นต้น
- ขนมไทยภาคใต้
ขนมไทยของชาวใต้ นิยมทำขนม เช่น ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ ขนมลูกสะบ้า ขนมดีซำ ขนมเจาะหู ขนมไข่ปลา ขนมแดง ใช้ในงานประเพณีสารท เดือนสิบ ตัวอย่างขนมของชาวใต้ เช่น ขนมหน้าไข่ ขนมฆีมันไม้ ขนมจู้จุน ขนมคอเป็ด ขนมคนที ขนมกอแหละ ขนมก้านบัว ข้าวเหนียวเชงา ข้าวเหนียวเสือเกลือก ขี้หมาพองเช ขนมดาดา ขนมกรุบ ขนมก้องถึ่ง
ขนมไทยมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตไทยในทุกเทศกาลและโอกาสต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความผูกพันและเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ขนมที่ใช้ในงานเทศกาลและพิธีกรรมต่างๆของไทยตลอดทั้งปีสรุปได้ดังนี้
ขนมไทยที่ใช้ในงานเทศกาล
ในเทศกาลต่างๆของไทย การทำขนมเป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับประเพณีไทย ไม่ว่าจะเป็น สงกรานต์ สารทเดือนสิบ ออกพรรษา โดยรายละเอียด เช่น งานสงกรานต์พระประแดง จะนิยมทำกะละแมในงาน งานสารท เดือน 10 ทำขนม ข้าวยาคู ข้าวมธุปายาส ข้าวทิพย์ กระยาสารท กะละแม ขนมกง ขนมไข่ปลา เป็นต้น เทศกาลออกพรรษา นิยมทำข้าวต้มมัด ทำข้าวต้มลูกโยนใส่บาตร ช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม นิยมรับประทานขนมอาเก๊าะ
ขนมไทยกับความเชื่อและพิธีกรรม
ขนมไทยจะมีเชื่อเรียกที่เป็นมงคลต่างๆ เนื่องจากรสชาติหวาน ทำให้รู้สึกถึงความเป็นสิริมงคลต่อคนรับประทาน ขนมไทยจึงถูกนำมาใช้ในงานประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานขีึ้นบ้านใหม่ งานศพ การสะเดาะห์เคราะห์ เป็นต้น โดยรายละเอียดดังนี้
- การสะเดาะเคราะห์หรือการแก้บน ของชาวไทยมุสลิมจะใช้ข้าวเหนียวสามสี ข้าวพอง ข้าวตอก และขนมเจาะหู มาใช้ นอกจากนี้ งานขึ้นบ้านใหม่ งานแต่งงาน ก็ยังถูกนำมาใช้
- งานแต่งงานตามประเพณีไทย จะใช้ขนมมงคล เช่น ทองเอก ขนมชะมด ขนมสามเกลอ ขนมโพรงแสม ขนมรังนก กะละแม ข้าวเหนียวแดง ข้าวเหนียวแก้ว ขนมชั้น ขนมเปี๊ยะ ข้าวเหนียวน้ำกะทิ ข้าวตอกนำกะทิ ลอดช่องน้ำกะทิ เป็นต้น
- พิธีแต่งงาน ตามประเพณีชาวมุสลิม จะต้องมีการป้อนข้าวและขนมให้บ่าวสาว ในพิธี ขนมไทยที่ใช้ คือ กะละแม ขนมดอดอย ขนมก้อ ขนมลาและข้าวพอง เป็นต้น
- พิธีกรรมต่างๆเช่น การยกเสาเอก ตั้งศาลพระภูมิ นิยมใช้ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว ข้าวตอก งาคั่ว ถั่วทอง ฟักทองแกงบวด
- การไหว้ครูมวยไทย นิยมใช้ กล้วยบวดชี เผือกต้ม มันต้ม ขนมต้มแดงต้มขาว ขนมชั้น ถ้วยฟู ฝอยทอง เม็ดขนุน เป็นต้น
วัฒนะรรมทางด้านอาหาร มีการพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการถ่ายทอดวัฒนธรรมด้านอาหารต่างชาติมาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น นอกจากวัตถุดิบต่างๆ ยังมีเครื่องมือในการทำขนมที่มีความทันสมัย ขนมไทย จึงมีการเปลี่ยนแปลง จนคนรุ่นหลังไม่ทราบขนมไทยแท้เป็นอย่างไร ขนมไทย จำพวกอบ เข้ามาประเทศไทยสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทอง ก็เป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกส